วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

การตัั้งวาวล์

มาลองตั้งวาวล์เองกันดีกว่า *** ไม่ยากอย่างที่คิด ***
ด้วยความที่ผมเป็นคนชอบซุกซนรื้อโน้นรื้อนี่อยู่เรื่อย ครั้งก่อนจับเจ้า"ซูแก่" มาทำการตั้งไฟจุดระเบิด แล้วได้ผลดีส่งผลให้รถน่าใช้ขึ้นอีกเยอะ ทำให้เกิดความคึกที่ต้องจัดการวาวล์เป็นลำดับต่อไป เมื่อสามสี่วันก่อนว่างพอดี เลยดิ่งไปจัดการซื้อเจ้าฟิลเลอร์เกจ เพื่อเอามาทำการวัดในการตั้งวาวล์ เด็กคนขายจัดมาให้ 1 ตัวพอลองดูปรากฎว่ามีหลายค่าที่กระโดดแต่ก็พอใช้ได้ และอีกอย่างอยากจะซื้อไว้หลายๆรุ่นหลายๆค่า เผื่อใช้วัดอย่างอื่นด้วย ถามเด็กที่ร้านว่ามีค่าอื่นๆอีกไหม เด็กที่ร้านก็แสนดีแล้วพี่จะเอากี่ตัวกันแน่ อาจเป็นเพราะเห็นเราดูไม่เหมือนช่างซื้อก็ซื้อไม่กี่อย่างดันถามจุกจิก ผมเลยยิ้มตอบแล้วพูดจาชวนฟังว่า น้องครับถ้าที่ร้านนี้มีเป็นล้านตัวพี่ขอเหมาหมดเลยนะ เถ้าแก่อยู่ไหนพี่จะขอซื้อทั้งร้านเลยพูดจบเด็กคนขายหน้างอ ฝืนบริการผมแบบเสียไม่ได้เห็นรื้อกล่องโน้นกล่องนี้อยู่นานปรากฎว่าไม่มีของหมดเหลืออยู่แบบเดียว ตกลงก็ซื้อมาในราคาร้อยกว่าบาท พร้อมกับซื้อกระปุกน้ำพร้อมปั้มฉีดน้ำหน้ากระจกขนาด 12V อีกสองร้อยกว่าบาท ที่ขาดไม่ได้ซื้อประเก็นฝาครอบสำเร็จสำหรับซูซูกิอีกตัวราคา 60 บาท และซื้ออื่นๆอีกหลายรายการตัวเบาเลย เอ้านอกเรื่องมานานแล้วเข้าเรื่องดีกว่าครับ

ขั้นตอนวิธีการตั้งวาวล์ 
ปกติการตั้งวาวล์จะมีการตั้งอยู่สองสถานะคือขณะเครื่องร้อนและขณะเครื่องเย็น แต่ผมเลือกเอาการตั้งขณะเครื่องเย็นจะดีกว่า ด้วยเหตุผลส่วนตัวว่าขณะที่เครื่องเย็นโลหะจะหดตัวในสภาวะปกติทำให้การตั้งมีความแม่นยำกว่า เพราะถ้าตั้งตอนเครื่องร้อนจะต้องอยู่ในสภาวะที่ร้อนจริงๆตามสภาพใช้งานจริงในจุดที่โลหะขยายตัวสูงสุด ถึงจะได้ค่าที่ถูกต้องและหากตั้งในขณะอุณหภูมิกึ่งๆกลางๆไม่แน่ใจเหมือนกันว่าโลหะยืดขยายตัวแค่ไหน อาจทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนได้ และอีกอย่างการตั้งในขณะเครื่องร้อนจะทำงานลำบากอาจลวกมือพองได้ ผมก็เลยเลือกตั้งวาวล์ตอนเครื่องเย็น ถ้าจะดีตั้งตอนเช้าก็ได้ แต่ผมไม่ค่อยมีเวลาในช่วงเช้า เลยใช้วิธีเปิดฝากระโปรงรถไว้เปิดฝาครอบด้านบนออกไว้ เอาพัดลมเป่าไว้ที่เครื่องยนต์บริเวณใกล้วาวล์ไว้ ทิ้งไว้ 4 ชั่วโมงปรากฎว่าเครื่องเย็นแล้วจึงจัดการตั้งวาวล์ ตามขั้นตอนดังนี้


อ่านเพิ่มเติม
1.การตั้งวาวล์จะคล้ายกับการตั้งไฟระบบจุดระเบิด แต่จะจับที่มาร์คที่ 0 องศา (จุดศูนย์ตายบน TDC) โดยจัดการทำมาร์คที่เรือนจานจ่ายในตำแหน่งสูบที่ 1 และ 4 โดยการไล่จากสายหัวเทียนจากสูบที่ 1 และสูบที่ 4 หรือดูจากด้านบนฝาครอบจานจ่ายก็ได้ จะมีตัวเลขกำกับไว้ จากนั้นถอดฝาครอบจานจ่ายออกมา ดังรูป (ตำแหน่งคร่าวๆของสูบที่ 1 และ 4 ในรูปเขี้ยวของหัวนกกระจอกจะชี้ที่สูบที่ 1 ) จัดสายหัวเทียนออกให้ห่างจากหัวนกกระจอก
2.ถอดหัวเทียนออกทั้ง 4 ตัว หรือคลายให้หลวมๆก็ได้
3.เข้าเกียร์ว่างลองบิดกุญแจสตาร์ทสั้นๆ จนด้านเขี้ยวโลหะของหัวนกกระจอก ชี้ไปที่ใกล้ๆตำแหน่งของสูบที่ 1

4.ปลดเกียร์มือ เข้าเกียร์สองไว้ (เกียร์ 3-5 ก็ได้) ดูมาร์คที่ข้างฟลายวีล หรือดูที่มูเลย์แคร้งชาร์ฟตัวล่างที่ด้านหน้าเครื่องสำหรับรถผม จะมีขีดบอก 0-10-20 อยู่ ขยับรถ(ออกแรงสักหน่อย) จนมาร์คได้ที่ตำแหน่ง 0 องศา ดูรูปประกอบ

นอกมื่อได้ตำแหน่งของสูบ 1 อยู่ที่ 0 องศาแล้ว ลองเอามือจับโยกวาวล์ดู จะเห็นว่ามีตัวที่โยกได้อยู่ 4 ตัว คือวาวล์ตัวที่ 1 - 2 - 5 - 7 นั้นจะโยกไม่ได้ โดยวาวล์ตัวที่ 1 และ 2 จะเป็นวาวล์ไอดี ให้ปรับตั้งที่ค่า 0.17mm สำหรับวาวล์ตัวที่ 5 และ 7 เป็นวาวล์ไอเสีย ให้ปรับที่ค่า 0.20mm ดูรูปประกอบ

6.ก่อนตั้งลองเอาฟิลเลอร์เกจสอดเข้าไปเช็คดูค่าเดิมก่อนว่าของเดิมตั้งไว้เท่าไหร่ ให้จดไว้ก่อน การสอดฟิลเลอร์เกจเข้า (ตามรูประยะห่าง A) ให้สอดเข้าไปตรงๆ อย่าให้แผ่นฟิลเลอร์เกจบิดงอหรือโค้ง ลองขยับเลื่อนแผ่นฟิลเลอร์เกจตามแนวยาวของแผ่นวัดไปมาประมาณ 1 เซนติเมตร ตำแหน่งที่ถูกต้องในการตั้งคือจะรู้สึกว่ามีความฝืดตึงๆมือนิดหน่อยแต่ไม่หลวมให้รู้สึกว่ามีการสัมผัสทั้งด้านบนและล่างของแผ่นฟิลเลอร์เกจ ตรงนี้อธิบายลำบากหน่อยไอ้ฝืดๆหลวมๆ เอาเป็นว่าอย่าให้หลวมจนไม่สัมผัสและไม่ฝืดจนเลื่อนแผ่นฟิลเลอร์เกจไม่ได้ ลองฝึกวัดดูก่อนครับก่อนจะตั้งของจริง สำหรับฟิลเลอร์เกจอาจมีค่าไม่ตรงตามที่ต้องการวัด เช่น ของผม มีแผ่นค่า 0.20 mm และแผ่นค่า 0.18 mm เวลาวัดวาวล์ไอดีผมใช้แผ่น 0.18 mm แต่ปรับให้ค่อยข้างฝืดมากหน่อยเพื่อให้ได้ค่าใหล้เคียง 0.17 mm 

.7รตั้งให้ใช้ประแจแหวนเบอร์ 12 คลายสกรู(ทิศทางทวนเข็มนาฬิกา)ให้พอหลวม สังเกตุแรงที่ใช้ขันออกด้วยว่าออกแรงระมาณเท่าไหร่ เวลาขันกลับคืนจะได้กะแรงถูกและแน่นใกล้เคียงเดิม ถ้ามีประแจวัดปอนด์ด้วยก็จะง่าย จากนั้นเอาประแจออกก่อน แล้วใช้ไขควงปากแบนที่มีขนาดปากพอดีกับสกรูที่ปรับวาวล์ขยับคลายนิดหน่อยลองเอาแผ่นฟิลเลอร์เกจตามค่าที่กำหนดสำหรับวาวล์นั้นๆ สอดทำการวัด ขณะวัดให้ถอยไขควงออกก่อน ลองขยับสกรูจนได้ความฝืดได้ตามที่ควรเป็น ลองใช้ประแจเบอร์12 ขันล็อคเบาๆไว้ก่อน ลองเช็คดูหลายๆรอบ ถ้ายังไม่ได้ก็คลายล็อคโดยประแจเบอร์12 ออกนิดหน่อย ใช้ควงควงปรับ แล้วลองวัดคร่าวๆถ้าคิดว่าได้ที่แล้วก็ลองล็อคเบาๆก่อนวัดอีกทีถ้าได้แล้ว ก็ทำการล็อคน็อตเบอร์12 ได้เลย การล็อคอาจขันล็อคได้เลย หรือ อาจใช้ไขควงจับล็อคหัวปรับไว้ด้วยแล้วขันด้วยประแจเบอร์12ให้แน่น แต่เท่าที่เคยทำมาบางครั้งแทบไม่ได้ใช้ไขควงจับเลยสามารถล็อคได้ทันที แต่ต้องสังเกตด้วยว่าสกรูที่ปรับตั้งหมุนตามหรือไม่ ถ้าหมุนตามในขณะขันล็อคก็ต้องใช้ไขควงช่วยล็อคสกรูไว้อีกแรง แล้วอย่าลืมเช็คดูอีกรอบล่ะครับมันอาจเคลื่อนได้ และที่สำคัญจริงๆ **** ระวังอย่าขันแรงจนน็อตหวานหรือขาดล่ะ **** 


เมื่อทำการตั้งค่าวาวล์ไอดีและไอเสียได้ทั้ง 4 ตัวแล้ว ก็ถือว่าผ่านไปครึ่งทางแล้วล่ะครับ
8.คราวนี้มาทำการตั้งครึ่งหลังคือทำแบบขั้นตอนที่ผ่านมาแต่ให้ตำแหน่งหัวนกกระจอกชี้ที่ตำแหน่งสูบที่ 4 แทน ขยับจนมาร์คได้ที่ 0 องศาเช่นกัน 
9.ลองโยกวาวล์ดูจะเห็นว่าสูบที่ 3 -4 - 6 - 8 โยกได้ นอกนั้นโยกไม่ได้ โดยวาวล์ที่ 3 กับ 4 เป็นวาวล์ไอดี และ วาวล์ที่ 6 กับ 8 เป็น วาวล์ไอเสีย จากนั้นก็ทำการตั้งตามขั้นตอนเหมือนรอบแรกได้เลย
10.จากนั้นประกอบทุกอย่างเข้าที่ สำคัญสายหัวเทียนอย่าสลับตำแหน่งล่ะ ที่ฝาครอบจานจ่านจะมีหมายเลขกำกับอยู่ ถ้านับจากสายหัวเทียนของสูบที่1 บนฝาครอบจานจ่ายไปทิศทางตามเข็มนาฬิกา จะเรียงดังนี้ 1 - 3 - 4 - 2 ถ้าใส่สลับเครื่องจะสั่นเป็นเจ้าเข้าเลยล่ะ
อีกอย่างประเก็นฝาครอบถ้าเปลี่ยนมันจะมีด้านของมันนะครับดูให้ดีๆ ถ้าใส่ผิดจะเห็นว่ามันไม่เข้ารูป ดูให้ดีด้วยครับ
บทสรุป
หลังจากที่ได้ตั้งมากับเจ้า "เจ้าซูแก่" ตอนแรกผมใช้ค่าวาวล์ไอดี ที่ 0.13mm และวาวล์ไอเสียตั้งที่ 0.16mm(โดยประมาณ) ปรากฎว่าเครื่องมีอาการอืดๆพิกล เสียงเครื่องออกดังด้วย แต่ตั้งอีกไม่ได้แล้ว เลยรอไว้อีกวันจึงตั้งตามค่าที่ระบุไว้ ได้ผลครับคราวนี้เสียงเครื่องเดินเรียบและเงียบดี อัตราเร่งทั้งต้นและปลายดีมาก โดยปกติก็ไม่ต้องไปตั้งบ่อยนะครับ เอาแค่ปีละครั้งก็พอแล้วครับ ขอให้ทุกท่านโชคดี และสนุกกับการตั้งวาวล์นะครับ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น